ที่มาโครงการ
กระทรวงศึกษาธิการได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะบริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในหลายมิติ ทั้งด้านความปลอดภัยของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาที่มีอยู่จำนวนมากบริเวณแนวตะเข็บชายแดนดังกล่าว การประชุมประสานภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 20/2568 เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ได้มีการขับเคลื่อน “ความปลอดภัยในโรงเรียนชายแดน” โดยให้บรรจุ “การเผชิญเหตุจากภัยความไม่สงบตามแนวชายแดน” ไว้ในหลักสูตรของสถานศึกษา เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถในการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงได้จัดทำ “แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนเผชิญเหตุจากภัยความไม่สงบตามแนวชายแดน” เพื่อเป็นคู่มือให้สถานศึกษานำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วางแผนรับมือ และฟื้นฟูสภาพจิตใจและความปลอดภัยของนักเรียน ครู และบุคลากร ทั้งก่อน ระหว่าง และภายหลังจากเหตุการณ์ โดยเฉพาะสถานศึกษาในพื้นที่ชายแดนที่มีความเสี่ยงสูง 7 จังหวัด ได้แก่
- ตราด
- จันทบุรี
- สระแก้ว
- อุบลราชธานี
- ศรีสะเกษ
- สุรินทร์
- บุรีรัมย์
โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สถานศึกษามีแนวทางการเตรียมความพร้อมอย่างเป็นระบบ เสริมสร้างความมั่นคงทางการศึกษาควบคู่ไปกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักเรียนและผู้ปฏิบัติงานทางการศึกษาอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งยกระดับความร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคง หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคมในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสถานศึกษาและผู้เรียน
แนวทางดังกล่าวมุ่งเน้นการบูรณาการเข้ากับการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การเรียนรู้จากสถานการณ์จริงและบริบทของชุมชน (Context-based Learning) และการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในการคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ แก้ปัญหา รู้เท่าทันข่าวสาร และปฏิบัติตนได้อย่างปลอดภัยเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้สถานศึกษาพัฒนากลไกการสื่อสารและการแจ้งเตือนภายในโรงเรียน การจัดทำแผนที่ความเสี่ยง (Risk Mapping) และเส้นทางอพยพ ตลอดจนการดูแลช่วยเหลือด้านจิตสังคม (Psychosocial Support) หลังเหตุการณ์ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจของนักเรียน ครู และบุคลากรอย่างเหมาะสม สร้างภูมิคุ้มกันทางความคิดและความปลอดภัยให้แก่ผู้เรียน ครอบครัว และชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน