คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีมติการประชุมเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2567 ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจัดทำหลักสูตรใหม่สำหรับใช้เป็นกรอบในการจัดการศึกษา ระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน โดยยึดแนวคิดการจัดการศึกษาฐานสมรรถนะ (Competency - based Education) และสอดคล้องกับพัฒนาการของผู้เรียน ด้วยมติของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ข้างต้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ดำเนินการพัฒนาหลักสูตร โดยมีสมรรถนะหรือความสามารถที่เหมาะสมกับช่วงวัยของผู้เรียนเป็นเป้าหมายการออกแบบหลักสูตร 5 ช่วงวัย คือ ระดับปฐมวัย พัฒนาผู้เรียนให้มีพัฒนาการสมวัย ระดับประถมศึกษาตอนต้น พัฒนาผู้เรียนให้มีพื้นฐานการเรียนรู้ที่ดี ระดับประถมศึกษาตอนปลาย พัฒนาผู้เรียนให้มีพื้นฐานการดำเนินชีวิต ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น พัฒนาผู้เรียนให้ค้นพบความถนัดและความสนใจของตนเอง และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย พัฒนาให้ผู้เรียนมีพื้นฐานด้านการประกอบอาชีพตามความสนใจ ซึ่งได้จัดทำหลักสูตรการศึกษาประถมศึกษาตอนต้น (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3) พุทธศักราช 2568 ฉบับนี้ เพื่อใช้สำหรับเป็นกรอบทิศทางในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 ในโรงเรียนที่มีความพร้อมและสมัครใจใช้หลักสูตรการศึกษาประถมศึกษาตอนต้น (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3) พุทธศักราช 2568 ในปีการศึกษา 2568
วิสัยทัศน์
หลักสูตรการศึกษาประถมศึกษาตอนต้น (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3) พุทธศักราช 2568 มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีความสามารถพื้นฐานด้านการเรียนรู้ที่เข้มแข็ง ประยุกต์ใช้ความรู้ในชีวิตประจำวัน มีจินตนาการที่สร้างสรรค์ และมีความสุขในการเรียนรู้ เพื่อให้สามารถเติบโตขึ้นเป็นพลเมืองที่ดีและมีคุณภาพในสังคม
หลักการ
1. เป็นหลักสูตรที่มีความสามารถพื้นฐานด้านการเรียนรู้ และความสามารถในการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน (Functional Literacy) และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เป็นเป้าหมายการพัฒนาผู้เรียน 2. เป็นหลักสูตรที่เน้นการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยการบูรณาการความรู้และสร้างบริบท/ สถานการณ์การเรียนรู้ที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาและเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life - Long Learning) 3. เป็นหลักสูตรที่เน้นการประเมินความก้าวหน้าของพฤติกรรมการเรียนรู้อย่างมีทิศทางเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุตามเป้าหมาย 4. เป็นหลักสูตรที่มีโครงสร้างยืดหยุ่นทั้งด้านความรู้ เวลาเรียน การจัดการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 5. เป็นหลักสูตรที่เปิดโอกาสให้สถานศึกษาสามารถบริหารจัดการหลักสูตรได้ตามบริบทโดยคำนึงถึงคุณภาพของผู้เรียนเป็นสำคัญ
จุดหมาย
1. ผู้เรียนสามารถอ่าน เขียน และคิดคำนวณ และใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และการดำเนินชีวิตประจำวัน 2. ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี สังคมและความเป็นพลเมือง เศรษฐกิจและการเงิน สุขภาพกายและจิต และศิลปะและวัฒนธรรมเพื่อสุนทรียภาพ ในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม 3. ผู้เรียนสามารถคิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และคิดแก้ปัญหา 4. ผู้เรียนมีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย อยู่อย่างพอเพียง และมีจิตสาธารณะ
คุณภาพผู้เรียน เมื่อจบระดับประถมศึกษาตอนต้น (ป.3)
คุณภาพผู้เรียน เมื่อจบระดับประถมศึกษาตอนต้น (ป.3) 1 มีความสามารถพื้นฐานด้านการเรียนรู้ ดังนี้ - เข้าใจความหมายของคำ ข้อความ ภาพ สัญลักษณ์ แผนภูมิ แผนภาพ แผนผัง และเรื่องราวในชีวิตประจำวัน สามารถสรุปสาระสำคัญจากการอ่าน และสื่อสารให้ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ด้วยวิธีการต่างๆ อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และรับผิดชอบ - เขียนเพื่อถ่ายทอดข้อมูล ความคิด และความรู้สึก โดยใช้คำพื้นฐานและจัดเรียงเนื้อหาทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ได้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ มีความชัดเจน เหมาะสมกับสถานการณ์และกาลเทศะ - ใช้ความรู้เบื้องต้นทางคณิตศาสตร์แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันด้วยความเชื่อมั่น รวมถึงสื่อสารด้วยภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์อย่างสมเหตุสมผล 2 มีความสามารถด้านการประยุกต์ใช้ความสามารถพื้นฐานด้านการเรียนรู้ในชีวิตประจำวัน ดังนี้ - รับรู้และเข้าใจปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี และใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการแก้ปัญหาและสร้างสรรค์สิ่งใหม่อย่างเหมาะสม เพื่อการดำเนินชีวิตด้วยความรับผิดชอบ ตามบริบทและสภาพแวดล้อม - รับรู้และปฏิบัติตนในฐานะพลเมืองดี เห็นคุณค่าของตนเอง มีเป้าหมายในชีวิต รับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ชุมชนและสังคม มีทักษะในการทำงานเป็นทีม มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม - รับรู้และเข้าใจสภาพทางเศรษฐกิจของครอบครัว เข้าใจถึงกระบวนการทำงานที่ทำให้เกิดรายได้ โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต และมีทัศนคติที่ดีต่อการประกอบอาชีพสุจริต - รับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพกายและจิต ตระหนักและเห็นความสำคัญของการปฏิบัติตนเป็นผู้มีสุขนิสัย ควบคุมอารมณ์ จัดการความเครียด และนำพาตนเองออกจากภาวะเสี่ยงหรืออันตรายรอบด้าน - รับรู้และเห็นคุณค่าทางสุนทรียภาพของศิลปะและวัฒนธรรม เข้าร่วมกิจกรรมในท้องถิ่น และสื่อสารด้วยความภาคภูมิใจ 3 มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ดังนี้ - มีความรักและภาคภูมิใจในประเทศชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มีความรู้สึกผูกพันและเคารพต่อสถาบันหลักของชาติ - มีจิตใจที่ซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา และมีความถูกต้องในคำพูดและการกระทำ ไม่คดโกง ไม่หลอกลวง - มีความมุ่งมั่นในการทำงาน รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ เคารพกฎ กติกา ควบคุมและกำกับตนเองให้ปฏิบัติงานจนบรรลุเป้าหมาย - มีความพอดีและสมดุล ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่เกินความจำเป็น ในการดำเนินชีวิต - มีจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และพร้อมช่วยเหลือผู้อื่น
การจัดการเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้เป็นการจัดกระบวนการหรือสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเรียนรู้ผ่านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้ให้บรรลุเป้าหมาย ตามหลักสูตร ต้องมีความเหมาะสมกับลักษณะของเป้าหมายการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนของส่งเสริมให้ผู้เรียนมีพัฒนาการด้านการอ่าน เขียน และคิดคำนวณอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันต้องสร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะในการใช้การอ่าน เขียน และคิดคำนวณในบริบทด้านวิทยาศาสตร์ สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี สังคมและความเป็นพลเมือง เศรษฐกิจและการเงิน สุขภาพกายและจิต และศิลปะและวัฒนธรรมเพื่อสุนทรียภาพเพื่อขยายวงคำศัพท์พื้นฐานด้านการอ่าน การเขียน และการคิดคำนวณให้กว้างขึ้น
วัดและประเมินผล
การวัดและประเมินผล 1. การประเมินระหว่างเรียน เป็นการดำเนินการรวบรวมหลักฐานการเรียนรู้ของผู้เรียน มุ่งเน้นไปที่การวินิจฉัยจุดแข็งและจุดอ่อนในการเรียนรู้ของผู้เรียน และให้ข้อเสนอแนะสำหรับทบทวนกลยุทธ์การเรียนรู้และการสอนของครู การประเมินระหว่างเรียนมีแนวคิดการประเมิน ดังนี้ - การประเมินเพื่อการเรียนรู้ เป็นการรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมความก้าวหน้าด้านการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างต่อเนื่องระหว่างจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อให้ข้อเสนอแนะที่มีคุณภาพและทันท่วงทีแก่ผู้เรียนในการปรับปรุงการเรียนรู้ และให้ครูปรับเปลี่ยนการวางแผนหลักสูตร และกลยุทธ์การสอน - การประเมินเป็นการเรียนรู้ เป็นการใช้ภาระงานการเรียนรู้และข้อเสนอแนะที่รวบรวมโดยผู้เรียนเพื่อปรับปรุงการเรียนรู้ของตนเอง ลักษณะเป็นแบบค่อย ๆ เก็บข้อมูล และส่งเสริมความเข้าใจของผู้เรียนเกี่ยวกับการเรียนรู้ของผู้เรียน การประเมินประสิทธิผลของการเรียนรู้ การปรับกลยุทธ์การเรียนรู้ การวางแผนเพื่อการติดตามผลและกำหนดวัตถุประสงค์และกลยุทธ์การเรียนรู้ในอนาคต 2. การประเมินเพื่อสรุปหรือตัดสินผลการเรียน เป็นการประเมินเพื่อตัดสิน มุ่งเน้นไปที่การให้คำอธิบายโดยรวมและสรุปเกี่ยวกับการปฏิบัติและความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของผู้เรียน การประเมินเพื่อสรุปหรือตัดสินผลการเรียนเป็นการประเมินเพื่อตัดสินผลการพัฒนาเทียบกับเกณฑ์คุณภาพเมื่อจบช่วงชั้น และรายงานผลการพัฒนาเป็นระดับความสามารถ 4 ระดับ - การตัดสินและรายงานผลการเรียน ตามเกณฑ์ความสามารถ 4 ระดับ โดยมีหลักการและแนวปฏิบัติ ดังนี้ - การตัดสินผลการเรียนเมื่อจบชั้นปี ให้พิจารณาจากผลการประเมินความสามารถของผู้เรียนเมื่อสิ้นสุดกระบวนการพัฒนาผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1, 2 และ 3 ตามความสามารถเมื่อจบชั้นปีตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด 4 ระดับ โดยให้สถานศึกษาดำเนินการ ดังนี้ 1. กำหนดเกณฑ์คุณภาพ 4 ระดับ สำหรับให้ผลการเรียน 2. ประเมินความสามารถผู้เรียนตามความสามารถเมื่อจบชั้นปี ด้วยวิธีการ เครื่องมือที่หลากหลาย และพิจารณาให้ผลการเรียนตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด โดย ให้มีความสามารถอยู่ในระดับพัฒนาขึ้นไป ทั้ง 8 ความสามารถ - การตัดสินผลการเรียนเมื่อจบการศึกษาระดับประถมศึกษาตอนต้น (จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 3) ให้พิจารณาจากผลการประเมินความสามารถของผู้เรียนเมื่อสิ้นสุดกระบวนการพัฒนาผู้เรียนในชั้นปีที่ 3 เพื่อสรุปความสามารถโดยรวมของที่ส่วนกลางกำหนด 4 ระดับ ตามเกณฑ์ที่ส่วนกลางกำหนด